วิธีการลง Mac OSX Leopard บนเครื่อง PC
สิ่งที่ต้องเตรียมการเลยอย่างแรก
1.Mac Leopard Kalyway 10.5.2 โหลดได้จากที่นี่ค่ะ
1.Mac Leopard Kalyway 10.5.2 โหลดได้จากที่นี่ค่ะ
>> http://www.mininova.org/get/1305803
2.แผ่น DVD Single layer เปล่า
3.เตรียมใจตัวเองซะ(555+)
2.แผ่น DVD Single layer เปล่า
3.เตรียมใจตัวเองซะ(555+)
เมื่อโหลดมาใช่ไหมค่ะ มันจะเป็นไฟล์ ISO สามารถใช้
Nero หรือโปรแกรมเกี่ยวกับ Image อื่นได้ค่ะ
จัดการไร้ด้วยความเร็วต่ำๆ เพื่อจะได้เกิดโอกาสการ Error น้อยที่สุด ต่อจากนั้น จัดการบูตเครื่องใหม่ ตั้งไบออสให้บูตจาก DVD(ใส่ไว้แล้วนะ) เสร็จแล้วให้กด Enter เพื่อเข้าสู้การติดตั้ง
มันจะโหลดไฟล์ที่จำเป็นต่อการติดตั้ง วื๊บบบบบบบบบ ไปเรื่อย จนขึ้นหน้าเลือกภาษา เข้า Graphic User interface แล้วคลิกลูกศร แล้วจะโหลดเข้าหน้าหลักค่ะ
ต่อมาแถวเมนูบาร์ด้านบน เราจะเห็นคำสั่งค่ะ ให้ไปที่ Utilities > Disk utility
จัดการไร้ด้วยความเร็วต่ำๆ เพื่อจะได้เกิดโอกาสการ Error น้อยที่สุด ต่อจากนั้น จัดการบูตเครื่องใหม่ ตั้งไบออสให้บูตจาก DVD(ใส่ไว้แล้วนะ) เสร็จแล้วให้กด Enter เพื่อเข้าสู้การติดตั้ง
มันจะโหลดไฟล์ที่จำเป็นต่อการติดตั้ง วื๊บบบบบบบบบ ไปเรื่อย จนขึ้นหน้าเลือกภาษา เข้า Graphic User interface แล้วคลิกลูกศร แล้วจะโหลดเข้าหน้าหลักค่ะ
ต่อมาแถวเมนูบาร์ด้านบน เราจะเห็นคำสั่งค่ะ ให้ไปที่ Utilities > Disk utility
เข้ามาแล้ว มันจะค้นหาฮาร์ดดิสและไดร์ฟซีดีดีวีดี เราจะเจอพาร์ทิชั่นต่างๆ ที่เราใช้
เลือกฮาร์ดดิสที่ต้องการและพาร์ทิชั่นนั้นๆ ข้อควรระวัง การกระทำนี้ ทำให้ข้อมูลหายหมด โปรดเลือกให้แน่ใจว่า พาร์ทิชั่นนีไม่มีอะไร
คลิกที่แถบ Erase
ฟอร์แมตเป็นระบบไฟล์ Mac Journal ค่ะ
ตั้งชื่อก่อนได้ค่ะ ในที่นี้ ฉันใช้ MacintoshHD
จากนั้นก็ กด Erase จะทำการฟอร์แมตค่ะ
เสร็จแล้ว กดปิด Disk utility ลงไป แล้วมาเข้าขั้นตอนต่อค่ะ.
จากตรงนั้นเสร็จแล้ว กลับมานี่ค่ะ กด Accept
เลือกไดร์ฟที่เพิ่งฟอร์แมตไปตะกี้นี้ค่ะ ของฉันไม่ลงใหม่ค่ะ แต่เหมือนกัน เลยยังไม่ฟอร์แมต
แต่ถ้าทำตามขึ้นตอน จะเป็นสีเขียวและมีเครื่องหมายถูกค่ะ
มาถึงนี่ กด Customize ค่ะ
Kernel ส่วนนี้สำคัญมาก หากใช้ Core2Duo ,Quad,Solo ต่างๆที่ใช้สถาปัตย Conroe,Wolfdale,Yorkfield,Kensfield ให้ใช้ Vanilla kernel ค่ะซึ่งเป็นของแอปเปิ้ลโดยตรง ทำงาน64บิตเต็มประสิทธิภาพค่ะ ส่วนถ้าไม่ใช่ ไม่ต้องปรับอะไรเลยค่ะตรงนี้
เลือกตามที่ต้องการ ไดร์เวอร์ต่างๆค่ะ ของฉันใส่การ์ดจอของ Nvidia ค่ะ เลือกเลย ขนาดเท่าไหน เลือกให้ตรงนะคะ ของฉัน 7300GT 512MB
**ข้อแนะนำนะคะ ถ้าไม่พบไดร์เวอร์ของการ์ดแลน ที่ใช้อยู่ ให้ใส่การ์ดเพิ่มเลยค่ะ ใบละ200บาท จะดีกว่าไปวิ่งหาค่ะ เพราะตอนเริ่มเปิดเครื่องเมื่อลงเสร็จ ถ้าไม่มีการ์ดแลนไปไม่ได้นะคะ
รุ่นที่ไม่ต้องการไดร์เวอร์เลย RTL8139 ค่ะ หรือ ยิ่งห้อ D-Link 528TX ค่ะ
การ์ดเสียง ส่วนใหญ่ ถ้ารู้ให้ใส่ตามนั้นนะคะ อันไหนไม่ใช่เอาออก แต่ถ้าไม่แน่ใจ ปล่อยตาม Default เลย
ของฉัน P5K จะใช้ ALC883 ค่ะ
ชิพเซตเลือกหมดเลยค่ะ
โปรแกรมต่างๆ เลือกหมดเลยก็ดีค่ะ มีโปรแกรมโหลดบิทกะทดสอบเครื่องด้วย
ใครใช้ AMD ติ๊กด้วยเด็ดขาดเลยนะคะ
ตรงนี้จะเป็นส่วนของ EFI~ ที่จะให้แมคเห็นเครื่องเป็นอะไรค่ะ ฉันเลือกเป็นแมคโปร อิๆ
ตรงนี้โนตบุ๊ค ห้ามลืมเลยค่ะ จะยืดอายุการเล่นด้วยแบตนานมากเลยทีเดียว
ที่นี่เป็นถ้าใครจะใช้ Timemachine ค่ะ (ติ๊กไปเหอะไม่เสียหาย)
คลิกปุ่ม Done เป็นอันเสร็จ แล้วกด Install เลยค่ะ
แล้วมันจะทำการเชค DVD~ ที่ใช้ลง ถ้ามั่นใจว่าดี Skip ได้เลยค่ะ
เสร็จแล้ว มันก็จะทำการลงค่ะ ความเร็วช้าขึ้นอยู่กับความเร็วเครื่องค่ะ และเทคโนโลยีการประมวลผล
นี่กำลังลงเลยค่ะ
เสร็จแล้ว มันก็จะทำการลงค่ะ ความเร็วช้าขึ้นอยู่กับความเร็วเครื่องค่ะ และเทคโนโลยีการประมวลผล
นี่กำลังลงเลยค่ะ
v
v
Mac OS X v10.6 Snow Leopard: วิธีลบและติดตั้ง
สรุป
ใช้ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อคืนค่าการตั้งค่าจากโรงงานและซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่แรกด้วยการใช้ DVD การติดตั้งที่ส่งมาพร้อมกับเครื่อง ข้อมูลสำคัญ: สำหรับ MacBook Air คุณต้องใช้ MacBook Air SuperDrive เพื่อดำเนินการตามกระบวนการนี้ให้เสร็จสมบูรณ์
หมายเหตุ: โปรดดู วิธี 'ลบและติดตั้ง' บนคอมพิวเตอร์ MacBook, MacBook Pro, MacBook Air และ Mac Pro (ปลายปี 2008 และหลังจากนั้น) สำหรับคำแนะนำของ Mac OS X v10.5
ขั้นตอนนี้มีสี่ส่วน:
ข้อมูลสำคัญ: ขั้นตอนนี้จะลบฮาร์ดไดรฟ์ของคุณทั้งหมด ถ้าคุณติดตั้ง Microsoft Windows โดยใช้ Boot Camp หรือมีหลายพาร์ติชัน ขั้นตอนนี้จะลบพาร์ติชันที่คุณเลือก
ส่วนที่หนึ่ง: การลบฮาร์ดไดรฟ์
1. เปิดคอมพิวเตอร์
2. ใส่ DVD การติดตั้งของ Mac OS X ในไดรฟ์ Optical
3. กดปุ่ม "C" ค้างไว้ในขณะที่คอมพิวเตอร์เริ่มต้นทำงาน คอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นโดยใช้ DVD การติดตั้งของ Mac OS X
4. ถ้าคุณใช้เมาส์ไร้สาย ไอคอนเมาส์ควรปรากฏข้อความให้คุณเปิดเมาส์เพื่อให้คอมพิวเตอร์พบเมาส์ของคุณ
5. เลือกภาษา จากนั้นกดปุ่มลูกศรชี้ขวา
6. คลิกที่เมนู Utilities (ยูทิลิตี) แล้วเลือก Disk Utility (ยูทิลิตีของดิสก์)
7. เลือกรุ่นที่จะลบ (โดยปกติจะเรียกว่า Macintosh HD)
8. คลิกแท็บ Erase (ลบ)
9. คลิก Erase... (ลบ...) ข้อมูลสำคัญ: ขั้นตอนนี้จะลบฮาร์ดไดรฟ์ของคุณทั้งหมด ถ้าคุณติดตั้ง Microsoft Windows โดยใช้ Boot Camp หรือมีหลายพาร์ติชัน ขั้นตอนนี้จะลบพาร์ติชันที่คุณเลือก
10. กรอบข้อความจะปรากฏขึ้นเพื่อสอบถามว่าคุณต้องการลบพาร์ติชันหรือไม่: คลิก Erase (ลบ)
11. หลังจากลบพาร์ติชันแล้ว ให้เลือก Quit Disk Utility (ออกจากยูทิลิตีของดิสก์) จากเมนู Disk Utility (ยูทิลิตีของดิสก์)
ส่วนที่สอง: การติดตั้งระบบปฏิบัติการ
1. เมื่อหน้าจอโปรแกรมติดตั้งของ Mac OS X Leopard ปรากฏขึ้น ให้คลิกที่ Continue (ทำต่อไป)
2. เมื่อข้อตกลงของใบอนุญาตปรากฏขึ้น ให้คลิก Agree (เห็นด้วย)
3. เลือกดิสก์ที่คุณลบ ซึ่งควรมีการเน้นรายการดิสก์ด้วยลูกศรสีเขียว
4. คลิก Install (ติดตั้ง) บาร์สถานะจะปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของหน้าจอในขณะที่ติดตั้ง Mac OS X
5. หน้าจอข้อมูลเพิ่มเติมจะปรากฏขึ้น ซึ่งจะช่วยแนะนำว่าระบบปฏิบัติการของคุณได้รับการติดตั้งแล้ว คลิก Continue (ทำต่อไป)
6. หน้าจอ Install Succeeded (ติดตั้งสำเร็จแล้ว) จะปรากฏ คลิก Restart (รีสตาร์ท)
ส่วนที่สาม: การดำเนินการตาม Mac OS X Setup Assistant ให้เสร็จสมบูรณ์
1. เมื่อการรีสตาร์ทเสร็จสิ้น วิดีโอต้อนรับจะเริ่มเล่น จากนั้นหน้าจอการเลือกประเทศ/ภูมิภาคจะปรากฏขึ้น
2. เลือกประเทศและภูมิภาคของคุณ แล้วคลิก Continue (ทำต่อไป)
3. เลือกโครงร่างคีย์บอร์ด แล้วคลิก Continue (ทำต่อไป)
4. หน้าจอการโยกย้ายจะปรากฏขึ้น ถ้าคุณต้องการโยกย้ายข้อมูลจาก Macintosh เครื่องอื่น โปรดดู เทคนิคและเคล็ดลับการโยกย้าย ถ้าคุณไม่ต้องการโยกย้าย หรือต้องการโยกย้ายในภายหลัง ให้เลือก "Do not transfer my information now" (ไม่ต้องโอนข้อมูลของฉันในขณะนี้) และคลิกที่ Continue (ทำต่อไป)
5. หน้าจอบริการไร้สายจะปรากฏขึ้นถ้ามีบริการไร้สายที่สามารถใช้งานได้ภายในบริเวณใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เลือก "On" และคลิก Continue (ทำต่อไป)
6. ถ้าเครือข่ายมีการป้องกันด้วยรหัสผ่าน ระบบจะถามรหัสผ่านเมื่อคุณเลือกเครือข่าย พิมพ์รหัสผ่านและคลิกที่ Continue (ทำต่อไป)
7. หน้าจอ Apple ID จะปรากฏขึ้น ซึ่งจะใช้เพื่อซื้อเนื้อหาจาก iTunes Store คุณสามารถใช้ชื่อผู้ใช้ของ MobileMe หรือ .Mac ได้ที่นี่เช่นเดียวกัน เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ให้คลิก Continue (ทำต่อไป)
8. ถ้าคุณไม่มี Apple ID หรือบัญชี MobileMe ให้คลิก Continue (ทำต่อไป) เพื่อไปยังหน้าจอถัดไป
9. หน้าจอข้อมูลการลงทะเบียนจะปรากฏขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูล แต่จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณหากดำเนินการ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ให้คลิก Continue (ทำต่อไป) และการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ของคุณจะถูกส่งไปในทันที
10. ถ้าเซิร์ฟเวอร์ของ Mac OS X สามารถใช้งานได้ในเครือข่ายของคุณ ระบบจะสอบถามว่าคุณต้องการเข้าสู่ระบบหรือไม่ ถ้าไม่ต้องการ ให้คลิก Continue (ทำต่อไป)
11. หน้าจอสร้างบัญชีของคุณจะปรากฏขึ้น ซึ่งจะใช้เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้ที่มี ID ล็อกอินและรหัสผ่านสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณควรจดจำรหัสผ่านนี้ไว้ ระบบจะถามรหัสผ่านเมื่อคุณติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่หรือทำงานอื่นๆ เกี่ยวกับการดูแลระบบบนคอมพิวเตอร์ของคุณ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ให้คลิกที่ Continue (ทำต่อไป) และระบบจะสร้างบัญชีของคุณในทันที
12. หน้าจอสำหรับเลือกรูปภาพของผู้ใช้จะปรากฏขึ้น ถ่ายรูปด้วยกล้องที่มีอยู่แล้วในระบบ หรือเลือกรูปภาพจากไลบรารีของคุณ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ให้คลิก Continue (ทำต่อไป)
13. หน้าจอ MobileMe จะปรากฏขึ้น เลือกตัวเลือกและคลิก Continue (ทำต่อไป)
14. หน้าจอขอบคุณจะปรากฏขึ้น คลิก Go (ไป) เพื่อดำเนินการตาม Mac OS X Setup Assistant ให้เสร็จสมบูรณ์
15. นำ DVD การติดตั้งของ Mac OS X ออก ด้วยการลากไอคอนไปที่ Trash (ถังขยะ)
ส่วนที่สี่: การติดตั้งแอพพลิเคชันที่รวมมา
1. เมื่อต้องการติดตั้งแอพพลิเคชันที่รวมมา ให้ค้นหาดิสก์การติดตั้งแอพพลิเคชันที่มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์
หมายเหตุ: คุณอาจเห็นไอคอนซอฟต์แวร์อัพเดทที่เลื่อนขึ้นลงในส่วนของด็อค คุณสามารถออกจากการทำงานนี้ได้ในทันที
หมายเหตุ: คุณอาจเห็นไอคอนซอฟต์แวร์อัพเดทที่เลื่อนขึ้นลงในส่วนของด็อค คุณสามารถออกจากการทำงานนี้ได้ในทันที
2. ใส่ดิสก์การติดตั้งแอพพลิเคชันในไดรฟ์ Optical
3. ดิสก์จะเมาท์ และข้อความ Applications Install Disk (ดิสก์การติดตั้งแอพพลิเคชัน) จะปรากฏ ดับเบิลคลิกที่ Install Bundled Software (ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่รวมมา) เพื่อติดตั้งแอพพลิเคชัน iLife
4. ข้อความจะปรากฏเพื่อสอบถามว่าคุณต้องการรันแพ็กเกจหรือไม่ คลิก Continue (ทำต่อไป)
5. หน้าจอโปรแกรมติดตั้งแอพพลิเคชันของซอฟต์แวร์ที่รวมมาจะปรากฏขึ้น คลิก Continue (ทำต่อไป)
6. หน้าจอใบอนุญาตซอฟต์แวร์จะปรากฏขึ้น คลิก Continue (ทำต่อไป) จากนั้นคลิก Agree (เห็นด้วย) เพื่อยอมรับข้อตกลง
7. ข้อความเลือกปลายทางจะปรากฏขึ้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าพาร์ติชันที่มีลูกศรสีเขียวเป็นปลายทางที่ถูกต้อง จากนั้นคลิก Continue (ทำต่อไป)
8. เมื่อต้องการติดตั้งแอพพลิเคชันที่รวมมาทั้งหมด ให้คลิกที่ Install (ติดตั้ง)
9. เมื่อต้องการเลือกแอพพลิเคชันทีละรายการ ให้คลิก Customize (ปรับแต่งเอง) คลิกรูปสามเหลี่ยมสำหรับแสดงรายการที่อยู่ถัดจากแอพพลิเคชันที่รวมมาเพื่อเลือกแอพพลิเคชันทีละรายการ จากนั้นให้คลิก Install (ติดตั้ง) การคลิกที่ Standard Install (การติดตั้งแบบมาตรฐาน) ในหน้าจอ Customize (ปรับแต่งเอง) จะเป็นการติดตั้งแอพพลิเคชันทั้งหมด
10. พิมพ์รหัสผ่านที่คุณสร้างไว้ใน ส่วนที่สาม ขั้นตอนที่ 11 เพื่อเริ่มต้นการติดตั้ง
11. ข้อความการรีสตาร์ทจะปรากฏขึ้น คลิก Continue Installation (ดำเนินการติดตั้งต่อไป)
12. หน้าจอ Install was Successful (ติดตั้งสำเร็จแล้ว) จะปรากฏขึ้น คลิก Restart (รีสตาร์ท)
กระบวนการคืนค่าดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้วในขณะนี้
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้อัพเดทซอฟต์แวร์ทั้งหมดหลังจากดำเนินการตามขั้นตอนนี้ จากเมนู Apple () ให้เลือก Software Update (ซอฟต์แวร์อัพเดท) เพื่อค้นหาการอัพเดทที่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ
เนื้อหาโอเคนะ มีรูปพอได้อยู่ ตัวอักษรก็โอเค อันข้างบนมันตัดกับพื้นหลังดี แต่อันข้างล่างมันค่อนข้างจะกลมกลืนไปหน่อย ขนาดตัวหนังสือก็ใช้้ได้แล้วล่ะ
ตอบลบพื้นหลัง + รูปภาพ + เนื้อหา สมบูรณ์แบบเลย
ตอบลบอ่านง่าย สบายตาดี แต่ที่ตัวหนังสือสีส้มอาจมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
นอกนั้นลงตัวที่สู๊ดดดดดดด!!!!!!!
พื้นหลังสวยดี ชอบๆ
ตอบลบน่ารักดี แต่ตัวอักษรเล็กไปนะ
ตอบลบรูปเยอะดี(มาก)หลังตัวหนังสือเล็กไปหน่อย
ตอบลบ